ตำรวจอยุธยาให้การช่วยเหลือ หนุ่มเอาตัวมุดรั้ว ติดคานับชั่วโมง
พ.ต.ท.สาริก ไชยวุฒิ สวป.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีชายตัวติดอยู่ในรั้ว บริเวณหน้าเสาธง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 มกราคม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา เข้าให้การช่วยเหลือ
ที่รั้วปูนความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร พบชาย อายุประมาณ 20 ปี นอนราบคว่ำหน้าอยู่กับพื้นปูน ลำตัวเข้าไปติดกับราวปูนช่องที่ 1 สูงจากพื้นประมาณ 15 เซนติเมตร นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยา ต้องใช้ความพยายามช่วยกันดึงตัวขยับตัวชายคนดังกล่าวออกจากรั้วปูน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย มีแผลถลอกตามหัวเข่าและข้อศอกเล็กน้อย
หลังนำตัวออกมาจากรั้วได้ เจ้าหน้าที่ได้นำข้าว และน้ำดื่มมาให้รับประทาน พร้อมกับพูดคุยสอบถาม แต่ยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ระหว่างนั้นมองเห็นเสาธง ก็ได้ร้องเพลงชาติแต่จับใจความไม่ได้
เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยสอบถาม ชายคนดังกล่าวพูดจาวกไปวนมา บอกว่าตนเองเป็นคนไทยใหญ่แม่บอกให้มาเรียกร้องทำบัตรประชาชน และแม่ยังบอกว่าให้ตนเป็นคนดี จากนั้นก็ยังร้องเพลงชาติไทย และเงยหน้ามองท้องฟ้าร้องเพลงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นำข้าวและน้ำมาให้กิน แต่ชายคนดังกล่าวนั้นทิ้งกับข้าวแล้วบอกว่าแม่สอนให้กินแต่ข้าวเปล่า เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พระนครศรีอยุธยา มาร่วมสอบสวนเพื่อติดตามหาญาติ และให้การช่วยเหลือต่อไป
สอบถาม นายวัสนต์ ธัญญวิกัย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กล่าวว่าตนเองได้รับแจ้งจากทางวิทยุว่ามีชายตัวติดอยู่กับรั้ว ภายในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้เดินทางมาช่วยเหลือก็พบชายคนดังกล่าวนอนติดอยู่กับรั้วจึงได้ช่วยกันนำออก เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าชายคนนี้ตัวติดอยู่ในรั้วตั้งแต่ 10.00 น. โดยไม่มีใครสังเกตเห็นมาช่วย และพูดจาไม่รู้เรื่อง
ทราบว่าชายคนดังกล่าว เมื่อเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ของ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ควบคุมตัว จากภายในวัดพิชัยสงคราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดอาการคลุ้มคลั่งอยู่ภายในวัด จึงได้นำตัวชายคนดังกล่าวมาสงบสติอารมณ์ไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน จนกระทั่งมาพบอีกครั้งตัวติดอยู่ที่รั้วแล้ว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ raintonbridge.com